Last updated: 7 มิ.ย. 2562 |
วันที่ 7 มิถุนายน 2562 - 16:00 น.
เมื่อน้ำมันกัญชากลายเป็นยาวิเศษของใครหลายๆ คน นำพาไปสู่ความต้องการใช้น้ำมันกัญชาที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการศึกษาข้อมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เข้าใจว่าด้านหนึ่งของกัญชาอาจจะไม่ใช่ยาที่ใช้รักษาทุกโรคได้อย่างที่เข้าใจ ในบางกรณีผู้ป่วยใช้น้ำมันกัญชาเกินขนาดจนต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการชักเกร็ง เเละอีกหลายกรณีก่อนหน้านี้ สะท้อนให้เห็นถึงการใช้กัญชารักษาทุกโรคกลายเป็นภาพจำที่อยู่บนฐานข้อมูลเพียงด้านเดียว
นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่าน้ำมันกัญชาเป็นยาวิเศษสำหรับคนที่เข้าใจและรู้ถึงข้อจำกัดวิธีใช้อย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นไม่ใช่ทุกคนที่ต้องใช้น้ำมันกัญชา อย่างเช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง (SLE ) หรือโรคพุ่มพวง ซึ่งมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่าสามารถใช้น้ำมันกัญชามาช่วยรักษาให้อาการดีขึ้นได้ เพราะกัญชามีฤทธิ์ในการปรับภูมิคุ้มกันโดยไม่ใช่เป็นการกดหรือเพิ่มเเต่จะเป็นการปรับสมดุลให้เหมาะสม
สำหรับโรคสะเก็ดเงินถือเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง คนที่เป็นโรคนี้จะทรมาน แต่จริงๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้รุนแรงถึงชีวิต ซึ่งผู้ป่วยสามารถทำครีมที่มีส่วนผสมของกัญชามาทาบริเวณแผลแล้วอาจจะหยดน้ำมันกัญชาในปริมาณที่น้อยที่สุดในการรักษาควบคู่ไปได้
ถึงแม้น้ำมันกัญชาจะกลายเป็นยาวิเศษของใครหลายคน แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีอาการทางจิต หรือหญิงมีครรภ์ห้ามใช้น้ำมันกัญชาโดยเด็ดชาด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายได้
ที่มา:http://www.nationtv.tv/main/content/378716518
ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ เพียงแค่กดเป็นเพื่อน LINE @CANNHEALTH