กัญชารักษาการบาดเจ็บไขสันหลัง (Spinal Cord Injurie) ได้อย่างไร?

Last updated: 3 ธ.ค. 2562  | 

วันที่ 3 ธันวาคม 2562 - 16:29 น.

"Exclusive"
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาไทยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 โดย Cannhealth
เขียน/แปล: วันดี กุศลธรรมรัตน์/ Wandee K.
เรียบเรียง : ณัฐวุฒิ จงจิตร/ Natthawut J.


คุณจะทำอย่างไร หากวันหนึ่งคุณไม่มีความรู้สึกที่แขนหรือขาของคุณอีกต่อไป? จะเป็นอย่างไรถ้าคุณไม่สามารถทำงานประจำและกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังต้องพึ่งพาผู้อื่นเพื่อให้ผ่านพ้นปัญหาไปได้ในแต่ละวัน? แม้ว่าจะมีใครสามารถจินตนาการถึงตัวเองได้ในสถานการณ์นี้  มันไม่มีความหมายอะไรมาเทียบได้กับการดำเนินชีวิต


จากข้อมูลของ  BrainandSpinalCord.org  (เว็บไซต์แหล่งข้อมูลสำหรับการบาดเจ็บของสมองและผู้รอดชีวิตจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง) ระบุว่าในแต่ละปีมีคนอเมริกันถึง 5 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บไขสันหลัง (spinal cord injury -SCI) แม้ว่าในขณะนี้มีผู้บาดเจ็บไขสันหลัง (SCI) 300,000 คนในสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยแล้วอาการบาดเจ็บไขสันหลังมักทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและทำให้เป็นผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อคุณภาพชีวิตส่วนบุคคล


ขอบคุณภาพจาก : thefreshtoast.com


หน้าที่ของไขสันหลัง สาเหตุและความชุกของการบาดเจ็บไขสันหลัง (The Purpose of Spinal Cords & The Causes and Prevalence of Spinal Cord Injuries)

การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (spinal cord injuries)  มาจากสาเหตุต่างๆ ได้แก่ การเล่นกีฬา, เหตุการณ์รุนแรง, การบาดเจ็บ, หกล้ม, และอุบัติเหตุรถยนต์  ผลลัพธ์ออกมาว่าประมาณ 42% ของการบาดเจ็บไขสันหลัง (SCI) ทั้งหมดเกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ ซึ่งการบาดเจ็บไขสันหลัง (SCI) ส่งผลกระทบได้กับทุกคน ทุกวัย แต่การบาดเจ็บไขสันหลัง (SCI)  ส่วนใหญ่มักส่งผลกระทบกับคนที่มีอายุระหว่าง 16-30 ปี และประมาณ 80%  ของผู้เข้ารับการรักษาเหล่านั้นเป็นผู้ชาย ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าในแต่ละปี

ชาวอเมริกัน 4-5 ล้านคนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะไขสันหลังบาดเจ็บ (SCI) โดยรวมเมื่อกระดูกสันหลังได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บจะมีการสูญเสียการทำงานหลายอย่าง รวมถึงการสูญเสียการทำงานของระบบประสาทด้านการเคลื่อนไหว การรับรู้ความรู้สึก (sensory motor function)

นอกจากนี้ไขสันหลัง (spinal cord) ยังเป็นส่วนที่จำเป็นและสำคัญของระบบประสาทส่วนกลาง (central nervous system) หน้าที่ของไขสันหลัง คือควบคุม ประสานงานและทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในร่างกายของเราสอดคล้องกัน นอกจากนี้ไขสันหลังของเรายังทำงานที่แตกต่างกันโดยหนึ่งในนั้น คือการส่งต่อ สื่อสารสัญญาณระหว่างสมองและร่างกาย ส่งผลให้เรามีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวไปมาและรู้สึกถึงความรู้สึกที่แตกต่างกัน และเมื่อพูดถึงการบาดเจ็บของไขสันหลัง ความรุนแรงขึ้นอยู่กับสาเหตุและขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการบาดเจ็บและระดับความสูงของมัน ความรุนแรงของการบาดเจ็บจะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปการบาดเจ็บไขสันหลังจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทด้านการเคลื่อนไหว การรับรู้ความรู้สึก นอกเหนือจากอาการเจ็บปวดจากผลข้างเคียง


ผลข้างเคียงที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอจากการบาดเจ็บไขสันหลัง (Debilitating Side Effects Caused by SCI)

นอกเหนือจากอาการอัมพาต (paralysis) ซึ่งเป็นอาการที่กล้ามเนื้อของอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ในรูปแบบต่างๆ ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (SCI)  มักจะพบภาวะแทรกซ้อนเชิงลบและผลข้างเคียง รวมไปถึงอาการปวดเรื้อรัง นอนหลับยาก และกล้ามเนื้อกระตุก จากผลข้างเคียงทั้งหมดที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการปวดเรื้อรังอยู่เป็นประจำ ผู้ป่วยที่บาดเจ็บที่ไขสันหลังรู้สึกได้กับความเจ็บปวดได้ในบริเวณที่มีส่วนรับรู้ความรู้สึก (sensations) นอกเหนือไปจากบริเวณที่ไม่มีความรู้สึกใดๆ ซึ่งความเจ็บปวดประเภทต่างๆ ที่ผู้ป่วยจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง รู้สึก ได้แก่ อาการปวดเส้นประสาท (neuropathic) , กล้ามเนื้อและกระดูก (musculoskeletal)  และอาการปวดจากอวัยวะภายใน (visceral pain) ซึ่งส่งผลให้บุคคลเหล่านี้แต่ละรายต้องประสบกับปัญหาความเป็นอยู่โดยรวมและคุณภาพชีวิตที่ตกต่ำลง


ขอบคุณภาพจาก : thefreshtoast.com


การรักษาการบาดเจ็บที่ไขสันหลังด้วยวิธีธรรมชาติโดยใช้กัญชา ช่วยได้อย่างไร (Cannabis as a Natural Treatment Method for SCI: How It Can Help)

อย่างไรก็ตามโชคดีที่ผลการวิจัยที่แตกต่างกันแสดงให้เห็นว่าสาร CBD และ THC ในพืชกัญชาสามารถช่วยบรรเทาผู้ป่วยที่บาดเจ็บที่ไขสันหลังได้  พืชกัญชาไม่เพียงแต่สามารถช่วยลดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง แต่ยังได้รับการเชื่อถือว่ากัญชาช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองได้ กัญชาถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดมาเป็นเวลาหลายศตวรรษและจนถึงทุกวันนี้กัญชาและ CBD ถูกใช้เป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติ จากการศึกษาครั้งหนึ่งได้ค้นพบว่าว่ากัญชาทำงานเพื่อควบคุมการรับรู้ความเจ็บปวดท่ามกลางผู้ที่ประสบกับความเจ็บปวดในระดับต่างๆ การศึกษาอื่น (study)  พบว่าเมื่อกัญชาถูกรวมเข้ากับการนวดกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยจากอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (SCE)  จะบรรเทาจากอาการปวดมากที่สุด

ถึงพืชกัญชาจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังสามารถให้ประโยชน์ทางยาและการรักษาอื่นๆ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น จากการศึกษาวิจัยครั้งหนึ่งมีนักวิจัยหลายคนแนะนำว่ากัญชาสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางระบบประสาทซึ่งได้ระบุไว้ในบทสรุปของการศึกษาต่อมา “ ผลลัพธ์ของเราเสนอแนะว่าระบบ endocannabinoids ที่ทำหน้าที่ผ่านตัวรับ CB1 และ CB2 เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองของระบบประสาทในช่วงต้นที่เกิดขึ้นหลังจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลังซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวคืนสภาพหลังจากการสูญเสียประสาท motor และ sensation (incomplete lesion)

จนถึงตอนนี้ เนื่องจากการใช้สาร cannabinoids ได้ส่งมอบคุณสมบัติของยาแก้ปวดและการตอบสนองทางระบบประสาทจึงมีความหวังสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บที่ไขสันหลัง


ผลการวิจัยเกี่ยวกับกัญชาช่วยรักษาอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ: ผลข้างเคียงทั่วไปของการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (Research Findings about Cannabis Helping Treat Muscle Spasms: A Common SCI Side Effect)

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากกัญชามีคุณสมบัติในการระงับอาการปวดแล้ว กัญชายังทำงานเป็นยาคลายกล้ามเนื้อด้วยการแก้อาการกล้ามเนื้อกระตุก (muscle spasms)  เมื่อผู้ป่วยประสบกับการเป็นอัมพาต พวกเขามักจะรู้สึกเกร็งซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อย 

อย่างน่าแปลกใจที่ในปลายทศวรรษ 1890s (ปี 1890-1899) Dr. J Reynolds ได้ค้นพบประสิทธิภาพของกัญชาในการรักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุก และโดยทั่วไปแล้วกัญชาทำงานเป็นสารต้านอาการกระตุกตามธรรมชาติและมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบว่าการรวมกันของสาร CBD และ THC ในรูปแบบของยา Sativex (สเปรย์ฉีดใต้ลิ้น) ที่ช่วยลดอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ

ถึงแม้ว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาจะเป็นผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมหรือโรค MS  ผลลัพธ์เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญและเป็นตัวแทนของศักยภาพในการรักษากล้ามเนื้อเกร็งเนื่องจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (SCI) นอกจากนี้นักวิจัยสรุปต่อไปนี้เกี่ยวกับการศึกษาอื่นที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อเกร็งและอาการปวด “สารสกัดจากกัญชาแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการบางอย่างของผู้ป่วยที่เป็นโรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis ) หรือโรค MS  ซึ่งส่วนใหญ่เพื่ออาการเจ็บปวดและอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ” นอกจากนี้ยังมีหลักฐานโดยเรื่องเล่าและเรื่องราวที่มีนัยสำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกัญชาในการช่วยเหลือผู้ป่วยบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (SCI)


ประสิทธิภาพของกัญชาในการรักษาอาการนอนไม่หลับเนื่องจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (Cannabis’s Ability to Help Treat Sleep Disorders Due to SCI)

นอกจากอาการปวดและภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง (muscle spasticity) แล้ว ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลังมักจะประสบปัญหาในการนอนหลับ โดยส่วนใหญ่ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลังจะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เช่นภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea)  น่าเสียดายที่การนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อย่างไรก็ดีมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเปิดเผยว่ากัญชาสามารถช่วยให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้นและยาวนานขึ้น จากการศึกษาอื่นพบว่าการรวมกันของสาร CBD และ THC สามารถช่วยผู้ที่ประสบปัญหาการนอนหลับที่แตกต่างกัน


การใช้สาร Cannabidiol (CBD) ทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น (Improved Mobility Due to Cannabidiol Usage)

โดยปกติการบาดเจ็บที่ไขสันหลังอย่างถาวรรวมไปถึงการส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเคลื่อนไหในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตามการศึกษาหนึ่งพบว่า CBD  ช่วยให้ความคล่องตัวในหนูที่มีอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลังนั้นดีขึ้น

ในการศึกษา นักวิจัยได้สรุปผลโดยระบุสิ่งที่ตามมาเกี่ยวกับการค้นพบเหล่านี้: “สาร Cannabidiol หรือ CBD ทำให้การฟื้นตัวของการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ดีขึ้น และขอบเขตของการบาดเจ็บลดลง ซึ่งแนะนำว่า CBD จะมีประโยชน์ในการรักษาอาการที่ไขสันหลังในส่วนของการสั่งการและรับรู้ความรู้สึก (motor and sensation)”

แม้ว่าการศึกษานี้ยังไม่ได้ดำเนินการกับมนุษย์ แต่การค้นพบเหล่านี้แสดงถึงผลกระทบเชิงบวกที่สาร CBD สามารถมีต่อการรับรู้ทางประสาทสัมผัส สั่งการและการทำงานของผู้ป่วยบาดเจ็บที่ไขสันหลัง นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าสาร cannabinoids  ที่แตกต่างกันสามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานซึ่งสามารถช่วยให้คุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้ป่วยที่บาดเจ็บที่ไขสันหลังดีขึ้นได้อย่างมาก

โดยรวมแม้ว่าจะมีวิธีการรักษาแบบดั้งเดิมที่มีอยู่สำหรับการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง  เช่นกายภาพบำบัด การนวดการฝังเข็ม การปรับเปลี่ยนความคิด (cognitive restructuring) และจิตบำบัด (Psychotherapy) ทว่าเหล่านี้มันไม่ได้ผลสำหรับทุกคน บ่อยครั้งที่มีการใช้ยาบางชนิดจากใบสั่งแพทย์สำหรับการจัดการกับความเจ็บปวด แต่ผู้ป่วยที่บาดเจ็บที่ไขสันหลังหลายราย

เบนเข็มไปเนื่องมาจากผลข้างเคียงและประวัติที่ทำให้ติดยา นอกจากกัญชาจะเป็นวิธีการรักษาตามธรรมชาติแล้ว กัญชายังสามารถบรรเทาผลข้างเคียงที่เจ็บปวดมากมายจากการบาดเจ็บที่ไขสันหลังในขณะเดียวกันก็ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมไปถึงความสามารถที่จะเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

ควรทำการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างกัญชา, สาร CBD, THC และการบาดเจ็บของไขสันหลัง แต่ผลการวิจัยที่ได้รับการเผยแพร่จนถึงขณะนี้มีความสำคัญและมีความหวัง



อ้างอิง : 

The Fresh Toast/Nov. 22, 2019

https://thefreshtoast.com/cannabis/how-cannabis-and-cbd-can-help-treat-serious-spinal-cord-injuries/