ม.อ. ลงนามร่วม สนง.สาธารณสุขสงขลา พัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

Last updated: 14 ม.ค. 2563  | 

วันที่ 14 มกราคม 2563 - 11:41 น.


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นตัวแทนในนามมหาวิทยาลัย ในการลงนามในข้อตกลง ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา โดยนายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ในการส่งเสริมการปลูกกัญชาและกัญชง และพัฒนาการนำมาใช้เพื่อการวิจัยและต่อยอดนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์แผนไทย โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมให้การสนับสนุนทางห้องปฏิบัติการ และงานวิจัยทางคลินิกเกี่ยวกับพืชดังกล่าว การจัดหาพื้นที่และควบคุมคุณภาพการปลูกในมหาวิทยาลัย และเครือข่ายที่ได้รับอนุญาต การนำผลผลิตมาทำเป็นยา ตำหรับยา และสูตรสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และทางเกษตรกรรม การสนับสนุนกันด้านข้อมูลที่สำคัญและจำเป็น และ การจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรทางสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง

รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวหลังลงนามความร่วมมือว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้มีการเตรียมการพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยจัดกลุ่มคณะผู้ดูแลด้านนี้ตั้งแต่การปลูก การสกัด และการนำไปใช้ ซึ่ง 3 ส่วนหลักนี้สามารถทำให้เกิดผลเพื่อตอบโจทย์ว่างานวิจัยเรื่องกัญชาหรือสมุนไพรอื่น ๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ได้จริง แต่อีกส่วนหนึ่ง คือ การที่จะนำผลจากงานวิจัยเข้าไปถึงประชาชนและผู้ป่วย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีขึ้นและประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากผลงานวิจัย และการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ

ส่วนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปัจจุบันทุกโรงพยาบาลในจังหวัดสงขลามีความพร้อมในการเปิดคลินิกแบบผสมผสานที่ทำงานคู่กันระหว่างแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาได้มีการฝึกอบรมแพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์ แพทย์แผนไทย ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้กัญชารักษาผู้ป่วย และมีเป้าหมายที่จะให้โรงพยาบาลชุมชนมีคลินิกกัญชาเกิดขึ้นในอนาคต การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในครั้งนี้ ถือเป็นรูปแบบความร่วมมือที่ดี เพราะกระบวนการดูแลเรื่องกัญชามีหลายมิติมากกว่าที่เราคิดไว้ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีความพร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุ์ การปลูก สถานที่ปลูก การสกัดเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ โดยหวังจะให้มีการขยายความร่วมมือนี้ให้ทั่วทั้งเขตสุขภาพที่ 12 ซึ่งครอบคลุม 7 จังหวัดในภาคใต้


อ้างอิง: http://nwnt.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=TCATG200112160426147