"นพ.สำเริง" ติวเข้มบุคลากรให้บริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์ เตือนผู้หลอกลวงชาวบ้าน ขายน้ำมันกัญชา มีสารปนเปื้อน

Last updated: 28 ม.ค. 2563  | 

วันที่ 28 มกราคม 2563 - 10:40 น.


ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดสัมมนาการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อความยั่งยืน เขตสุขภาพที่ 9 เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของบุคลากร 4 จังหวัด อีสานใต้ ที่ให้บริการในคลินิกกัญชาทางการแพทย์ พร้อมเตือนผู้ที่หลอกลวงชาวบ้าน ขายน้ำมันกัญชาแพง อาจมีสารปนเปื้อนผสมอยู่ ทำให้เกิดอันตรายได้


ขอบคุณภาพจาก: siamrath.co.th


วันที่ 27 ม.ค.63 นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการสัมมนาทางวิชาการ “การใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อความยั่งยืน เขตสุขภาพที่ ๙” ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ เขตสุขภาพที่ 9 จัดขึ้น โดยมี นายแพทย์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 9 พร้อมแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ในเขตสุขภาพที่ ๙ ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 360 คน ที่ห้องประชุมฟลอร่ารูม อุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มพูนความรู้ความสามารถของบุคลากรที่ให้บริการในคลินิกกัญชาทางการแพทย์


ขอบคุณภาพจาก: siamrath.co.th


ซึ่งได้เชิญวิทยากร บรรยายพิเศษ เรื่อง การออกฤทธิ์ของกัญชาและมาตรการการใช้สารสกัดกัญชาในทางการแพทย์ โดยศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา , ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , การบรรยาย เรื่อง กว่าจะมาเป็น บุรีรัมย์โมเดล โดยนายแพทย์กิตติ โล่สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคูเมือง จ.บุรีรัมย์ และการเสวนาการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อคามยั่งยืน โดยนายแพทย์ธเนศ ดุสิตสุนทรกุล ผู้อำนวยการสถาบันกัญชาทางการแพทย์, นายแพทย์อรรถสิทธิ์ ศรีสุบัติ ที่ปรึกษากรมการแพทย์, นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก, เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ดร.ภญ.นันทกายจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 11 และกลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์


ขอบคุณภาพจาก: siamrath.co.th



นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า กัญชา ซึ่งยังคงเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 แต่ในประเทศไทยนั้น เริ่มมีการปลดล็อคให้สามารถใช้ได้ในทางการแพทย์และสาหรับการวิจัยได้ เมื่อ ปี 2562 ที่ผ่านมา และจังหวัดบุรีรัมย์ เขตสุขภาพที่ 9 ได้มีการดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ โดยจัดตั้งคลินิกให้บริการกัญชาทางการแพทย์ ครบทุกโรงพยาบาล มีสถานที่ผลิตและปลูกกัญชาทางการแพทย์ ที่ อำเภอคูเมือง โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างวิสาหกิจชุมชน ศูนย์พัฒนาสมุนไพร เพ ลา เพลิน เพื่อชุมชนและโรงพยาบาลคูเมือง ซึ่งทางวิสาหกิจได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตในการปลูกรอบแรกแล้ว


ขอบคุณภาพจาก: siamrath.co.th


ทั้งนี้ การจะปลูกกัญชาอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการจะปลูกบ้านละ 6 ต้นทำยังไม่ได้ แต่การปลูกใกล้บ้านที่จะดำเนินการได้ก็ที่ รพ.สต.ซึ่งมีวิสาหกิจชุมชนพร้อมให้ความร่วมมือ และยังมีแหล่งทุนในท้องถิ่นร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงผู้ที่หลอกลวงชาวบ้านขายน้ำมันกัญชาแพงเกินกว่าเหตุ ซึ่งอาจจะมีกัญชาอยู่น้อยหรือมีสารปนเปื้อนผสมอยู่ด้วย อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง อย่าไปหลงเชื่อว่าเป็นยาวิเศษ แต่สามารถบรรเทาอาการผ่อนคลายได้


ขอบคุณภาพจาก: siamrath.co.th



สำหรับประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทยนั้น ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ได้ประโยชน์ในขณะนี้ ได้แก่ ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบาบัด โรคลมชักรักษายากในเด็กและโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง อาการปวดประสาทส่วนกลางที่รักษาด้วยวิธีต่างๆ ไม่ได้ผล ผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง


อ้างอิง: https://siamrath.co.th/n/129065