Last updated: 19 ก.พ. 2563 |
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 - 13:31 น.
"Exclusive"
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเป็นภาษาไทยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 โดย Cannhealth
เขียน/แปล: วันดี กุศลธรรมรัตน์/ Wandee K.
เรียบเรียง : ณัฐวุฒิ จงจิตร/ Natthawut J.
การใช้กัญชาทางการแพทย์โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือภูมิหลังทางการแพทย์ของผู้ป่วยนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือเริ่มต้นด้วยขนาดน้อยที่สุด (ปริมาณน้อย) ที่เรียกว่า Microdose ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณขึ้นได้เมื่อจำเป็น ซึ่งหมายถึงการเริ่มต้นใช้กัญชาด้วยปริมาณทีละน้อยๆ แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มขนาดจนควบคุมอาการเจ็บป่วยที่มีได้
การหาขนาดการใช้ยา (dose) หรือปริมาณยาที่ถูกต้องของการรักษาโดยการใช้ยา (medication) ใหม่อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก หากปริมาณน้อยเกินไปก็จะไม่บรรเทาอาการตามที่ต้องการ ปริมาณมากเกินไปก็จะเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ที่เกินดุลข้อดีของการใช้ยาในตอนแรก เช่นเดียวกับกัญชาทางการแพทย์ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังและการเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
ประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพของกัญชา (Marijuana’s health benefits) มีความสำคัญ แต่ในฐานะผู้ป่วยคุณจะมีประสบการณ์ที่ดีขึ้นมากถ้าคุณเริ่มต้นใช้ด้วยขนาดที่ต่ำ (low dose) และคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงอะไรที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เมื่อใช้กัญชาทางการแพทย์? (What Side Effects Should I Expect When Using Medical Marijuana?)
ก่อนที่จะเริ่มต้นในเนื้อหา ขอแจ้งว่าบทความนี้จะเน้นไปที่ความสำคัญของการใช้ยากัญชาแบบค่อยเป็นค่อยไปและการค่อยๆ เพิ่มขนาดของยาสำหรับผู้ป่วยที่มีคุณสมบัติในการใช้ยา หากผู้ใช้กังวลเกี่ยวกับการใช้ยาในปัจจุบันหรือความถี่ในการใช้งาน อาจสนใจอ่านบทความเกี่ยวกับการติดกัญชาได้ที่ https://inhalemd.com/blog/could-i-become-addicted-to-medical-marijuana/
เมื่อใดก็ตามที่เริ่มการรักษาด้วยยาตัวใหม่ ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับผลข้างเคียงอย่างน้อยหนึ่งอย่าง โชคดีที่ว่าผลข้างเคียงส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกัญชานั้นค่อนข้างอ่อนโยนและผู้ป่วยสามารถทนได้ นอกจากนี้อาการเหล่านี้มีระยะสั้นเกิดขึ้นไม่นาน ในขณะที่การรักษาด้วยยาบางชนิดสามารถทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายค่อนข้างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นอาการเบื่ออาหาร การสูญเสียความต้องการทางเพศ นอนไม่หลับ หงุดหงิดหรือปัญหาอื่นๆ ผลข้างเคียงของกัญชาทางการแพทย์มักจะจางหายไปหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง (หรือเมื่อใดก็ตามที่ยาเริ่มเสื่อมสภาพ) ถึงกระนั้นก็ตามหากผู้ใช้ต้องการให้มีผลข้างเคียงเชิงลบให้น้อยที่สุด การเริ่มต้นใช้ยากัญชาในขนาดต่ำ คือปริมาณน้อย (microdosing) จะช่วยให้แน่ใจได้
การให้ยากัญชาทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นแบบสูบกัญชา (smoke), นำเข้าสู่ร่างกายทางปาก (ingested), สูดไอระเหย (vaporized) หลังจากการใช้ก็เป็นเรื่องปกติที่จะพบผลข้างเคียงเหล่านี้:
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานบางอย่างที่ว่ากัญชาสามารถทำให้รูปแบบของโรคหัวใจและโรคเลือดออกในสมองแย่ลง ผลทางลบที่พบบ่อย คือการประสบกับความรู้สึกวิตกกังวลและหวาดระแวงในขณะที่ใช้กัญชา ซึ่งอาจทำให้เสียสมาธิได้หากไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การเริ่มต้นใช้กัญชาด้วยขนาดที่ต่ำ (low dose) ในปริมาณน้อยจะช่วยลดโอกาสที่จะมีประสบการณ์ด้านอารมณ์เชิงลบ ในขณะเดียวกันก็ลดความรุนแรงของผลข้างเคียงทางจิตใจและร่างกายที่กล่าวมาข้างต้น
ผู้ป่วยบางคนพบว่าประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความหวาดระแวงและความวิตกกังวลเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเพราะพวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เครียดหรือไม่พอใจ อย่างไรก็ตามหากความวิตกกังวลในขณะที่ใช้กัญชากลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นถาวรหรือซ้ำๆ สำหรับคุณและไม่สามารถระงับได้ด้วยการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ สิ่งนี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าปริมาณการใช้กัญชาของคุณมีปริมาณมากเกินไปและควรลดปริมาณลง เมื่อไปพบแพทย์ที่รักษา ผู้ใช้ต้องซื่อสัตย์กับแพทย์ของคุณเสมอเกี่ยวกับปริมาณที่ใช้และความรู้สึกที่เกิดขึ้นของคุณโดยไม่คิดหรือทำปฏิกิริยาใดๆ ซึ่งการพูดอย่างเปิดเผยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหาปริมาณที่เหมาะสม อย่ารู้สึกผิดถ้าใช้เวลาในการลองผิดลองถูก นั่นเป็นสิ่งที่แพทย์ช่วยเหลือคุณ
โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือภูมิหลังทางการแพทย์ของผู้ป่วย วิธีที่ดีที่สุดในการใช้กัญชา คือเริ่มต้นใช้ด้วยขนาดที่เรียกว่า small dose (ปริมาณน้อย) ที่เรียกว่าใช้กัญชาแบบไมโครดอส (microdosing) ซึ่งสามารถเพิ่มได้หากจำเป็นและไม่จำเป็นต้องมีวิธีอื่นๆ การใช้กัญชาแบบค่อยเป็นค่อยไปจะลดความเสี่ยงของผู้ป่วยที่จะได้รับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เป็นการให้เวลาผู้ใช้เรียนรู้ว่าร่างกายและจิตใจของพวกเขาตอบสนองต่อกัญชาในปริมาณเล็กน้อยได้อย่างไร การใช้กัญชาขนาดต่ำ (ปริมาณน้อย) และอ่อนโยนจะให้ประโยชน์โดยรวมและผลการตอบสนองทางการแพทย์ที่ดีที่สุด
ให้คิดว่ามันเหมือนการเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำ คุณคงไม่เริ่มต้นด้วยการกระโดดลงไปในสระลึก คุณจะเริ่มต้นด้วยการพายเรือและการแช่น้ำในน้ำตื้นๆ จนกว่าคุณจะรู้สึกสะดวกสบายเมื่อคุณรู้สิ่งที่คาดหวังและวิธีที่คุณจะตอบสนอง ความคิดนี้สามารถสรุปได้ในคำที่ว่า: เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ( take baby steps)
คุณดื้อสารในกัญชาได้หรือไม่? (Can You Develop Tolerance To Cannabis?)
เมื่อผู้ป่วยใช้กัญชา (และยารักษาอื่น ๆ อีกมากมาย) พวกเขาอาจค่อยๆ พัฒนาไปจนถึงสิ่งที่เรียกว่า การดื้อยา (tolerance) เมื่อคุณพัฒนาจนเกิดอาการดื้อต่อสารเคมีไม่ว่าจะเป็นในกัญชาหรือยาอื่นๆ นั่นหมายถึง คุณต้องการสารนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์เดียวกัน การดื้อยา (tolerance) นำไปสู่ปัญหาที่เด่นชัดบางประการ ประการแรกผลข้างเคียงของกัญชาจะชัดเจนมากขึ้นด้วยปริมาณการใช้ที่มากขึ้น ประการที่สองอาการถอนยาหากผู้ใช้ข้ามหรือหยุดการใช้ยาเอง อาการดื้อยาจะรุนแรงมากขึ้นและอาจนานกว่าเดิมและประการที่สาม การใช้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นก็จะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการรักษา
ในสถานการณ์เช่นนี้หากหยุดอาการดื้อยาได้จะปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยจำนวนมากใช้กัญชาเพื่อจัดการหรือบรรเทาอาการที่ค่อนข้างรุนแรง การหยุดการรักษาชั่วคราวอาจทำให้ผู้ใช้เป็นอันตรายและ / หรือรู้สึกไม่สบายมากกว่าดำเนินการต่อ และผู้ใช้กัญชาควรพูดคุย ปรึกษากับแพทย์ของคุณเสมอก่อนที่จะเปลี่ยนแผนการรักษา (เช่นปริมาณ ความถี่ในการใช้งาน วิธีการใช้) ด้วยการดูแลของแพทย์ คุณอาจลดปริมาณยาลงทีละน้อยเพื่อให้ได้ผลในปริมาณที่ลดลง อย่างไรก็ตามแผนการที่ดีที่สุด คือการหาขนาดยากัญชาที่เหมาะสมในปริมาณ/ขนาดที่ต่ำและแน่นอนตั้งแต่เริ่มต้นใช้ เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องประสบกับสถานการณ์การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
Source:
The Fresh Toast/Feb. 16, 2020
By: Dr. Jordan Tishler
https://thefreshtoast.com/cannabis/why-patients-should-always-start-with-a-low-dose-of-medical-marijuana/
27 เม.ย 2564